วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การทำสีกรงนกหัวจุก

เรื่องการทำสีกรง....ว่าควรทำอย่างไร?..ใช้สีเคลือบของอะไร?ดี

ยี่ห้อไหนคงทนถาวร...หรือใช้ได้นาน ๆ การทา ๆ ด้วยแปรงดีไหม?..หรือการพ่นด้วยปั๊มลมด้วยกาพ่น ???

สำหรับผมแล้ว..การทำสีกรงที่ผมทำขึ้นมาใช้เอง..มักจะพิถีพิถันสักหน่อยหนึ่งเพราะต้องการที่อยากให้ได้

คุณภาพการใช้งานให้คงทนหรือยืนยาวซักหน่อยหนึ่ง.....วันนี้เรามาทำความเข้าใจกับการทำสีกรง

กันดีกว่าครับ...ว่าเราจะเริ่มทำอย่างไรกับกรงที่จะต้องทำสี...สีที่เราใช้เราจะต้องใช้สีอะไร ? ที่ดูดีและ

เหมาะสมกับงานกับไม้กรงที่เราทำมา.....และการทำสีมีอยู่สองวิธีที่มักจะทำกันก็คือ...หนึ่ง.การทาด้วย

แปรงขนอ่อน..ทาด้วยมือ.....อีกอย่างก็คือการพ่น....ด้วยการใช้ปั๊มลมและกาพ่นสี.....

เรามาดูการทาด้วยแปรงกันก่อนนะครับว่าเราต้องเตรียมอุปกรณ์อะไร?บ้างดังนี้คือ.................................

1. แปรงขนอ่อนขนาด 2 เซ็นต์และขนาด 4 เซ็นต์

2. สีเคลือบที่จะต้องใช้สำหรับเคลือบ

3. ทินเนอร์หรือส่วนผสมของสีเฉพาะนั้น ๆ

4. กระดาษทรายละเอียด

5. ถ้วยหรือกระป๋องสำหรับผสม

6. กาวร้อน

เริ่มแรกเลยนะครับถ้าเป็นการทาด้วยแปรงสีที่ใช้ส่วนมากแล้วมักจะใช้มักเป็น ยูนิเทรนจะเป็นอย่างขวดหรือ

อย่างกระป๋องก็ได้ครับและก็อีกอย่างคือทินเนอร์...ก่อนที่จะทำการทาสีกรงเริ่มทำสีเราต้องขัดกรงให้เรียบร้อย

ดีก่อนโดยพยายามเก็บรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ให้เรียบและเสมอดีแล้วขัดเสร็จก็หาเศษผ้ามาลูบเพื่อปัดเอาเศษฝุ่นหรือเศษผง ของไม้ออกให้หมดไป หลังจากนั้นก็ผสมทินเนอร์กับยูนิเทรนโดยใช้อัตราส่วนสองต่อหนึ่ง....... คือ..ยูนิเทรนหนึ่งส่วนและทินเนอร์สองส่วน...คนให้เข้ากันโดยใช้เศษไม้คน แล้วจึงเริ่มทำการทาสีกรง.....

(กรง...ถ้าประกอบเสร็จและใส่ซี่เรียบร้อยแล้วมักจะทำการทาสียากสักหน่อยถ้า ทำสีโดยการทาควรจะเว้นการใส่ซี่ไว้บ้างเพื่อที่จะสอดมือเข้าไปทำข้างใน ได้....)การทาสีสมควรทาสีดังนี้คือ..ทาครั้งแรกเสร็จแล้วให้ปล่อยทิ้งไว้ให้ แห้งดีหมายถึงแห้งจริง ๆ แล้วจึงทำการขัดด้วยกระดาษทรายละเอียดอีก..ขัดให้เรียบแล้วเช็ดเศษฝุ่นที่ ติดอยู่ด้วยผ้าแล้วจึงทำการทาสีครั้งที่สอง...และก็ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งอีก ครั้งหนึ่งแล้วทำการขัดเหมือนกับครั้งแรกแล้วจึงทาสีอีกทีหนึ่งเป็นอัน เสร็จ....หมายเหตุ...การทำสีกรงสมควรทำตอนที่อากาศดี..มีแดด..อย่าทำตอน อากาศชื้น ๆ หรือฝนตกหรือตอนกลางคืนเพราะจะทำให้ทินเนอร์ซึ่งเป็นส่วนผสมจะขุ่นขาวติด เนื้อไม้ได้สีไม่เงาแวว...และการทำให้แห้ง...อย่าทำสีเสร็จแล้วนำไปตาก แดด..เพราะจะทำให้แลคเกอร์หรือยูริเทรนที่ทาไว้แตกเป็นลายเส้นตามเนื้อไม้.. ควรเก็บไว้ในที่ร่มไม่โดนแดดแล้วปล่อยให้แห้งเองซึ่งการทำสีกรงอาจใช้เวลา นิดหนึ่ง.อีกอย่างหนึ่งที่เป็นจะต้องใช้ของดี ๆ หน่อยก็คือแปรงทาสีขนอ่อน...ควรหาซื้อแปรงที่มีคุณภาพหน่อยหลังจากซื้อมา แล้วสมควรหยอดกาวร้อนที่โคนของขนแปรงและทิ้งไว้ให้แห้งก่อน...เป็นการ ป้องกันไม่ให้ขนแปรงหลุดและติดกับกรงขณะที่เราทำสี...ถ้าซื้อแปรงที่มี คุณภาพต่ำขนแปรงจะหลุดง่ายทำให้งานล่าช้าและต้องมาดึงมาเก็บขนแปรงแล้วจะทำ ให้เป็นรอยนี้วมือได้......

การทำสีกรงโดยการพ่นด้วยกาพ่นและปั๊มลมเป่า......

การทำสีอย่างนี้เป็นที่นิยมใช้กันเพราะเป็นการทำที่ถาวรดี...สีที่ออกมาจะเรียบและเสมอกันดูมีความมันแวววาว

แต่ขั้นตอนและอุปกรณ์มักจะต้องลงทุนสูงสักหน่อย..เรามาดูกันครับว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง....




การพ่นสีด้วยลมหรือปั๊มลมอุปกรณ์ที่จะต้องมีก็คือ.......

1. ปั๊มลม...(ขาดไม่ได้แน่นอน....อาจจะหาปั๊มขนาดกลางหรือเล็กก็ได้.)

2. กาพ่น..(สมควรใช้กาพ่นขนาดเล็กหรือที่เรียกกันว่าแอร์บัตเพราะสามารถสอดเข้าพ่นด้านในได้)

3. ทินเนอร์...(เตรียมไว้สำหรับล้างกาพ่น..หลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว)

4. สีและส่วนผสม..(เป็นสีเคลือบเงาของรถยนต์ใช้ได้ทุกยี่ห้อ)

5. กระดาษทรายละเอียด....(เอาไว้สำหรับขัดหรือลูบกรงหลังจากที่เราพ่นครั้งแรก ๆ ให้เรียบ)

6. กระป๋องหรือถ้วยสำหรับผสมสีอาจจะเป็นภาชนะที่หาได้ใกล้ ๆ มือ......




ครับ...เมื่อมีสิ่งของอุปกรณ์พร้อมแล้วก็เริ่มโดยการนำกรง ที่จะทำสีซึ่งขัดเกลาและเก็บรายละเอียดเรียบร้อยแล้วหาเหล็กเส้นยาวสัก 50 เซ็นต์ทำเป็นตะขอทั้งสองด้านแล้วก็หาที่ ๆ สามารถแขวนกรงให้อยู่ในระดับที่สามารถพ่นได้สะดวก...อย่าพ่นกรงโดยการตั้ง ไว้กับพื้นเพราะจะทำให้เม็ดฝุ่นหรือทรายปลิวตามแรงลมของปั๊มเกาะติดกับกรง ได้..ให้พยายามหาที่แขวนและเราจะสามารถหมุนกรงได้โดยรอบได้ง่าย...เริ่มจาก การผสมสี...สีที่ผมใช้อยู่จะเป็นสีเคลือบเงาของรถยนต์..ผมใช้ของยี่ห้อ Plan 8009 และอีกกระป๋องหนึ่งจะเป็น Plan8099ซึ่งสองกระป๋องนี้จะเป็นชุดขายรวมกันราคาอยู่ที่ 400 บาทต่อหนึ่งชุด...นำมาผสมกันในอัตราส่วนผสม 1 ต่อ 3 โดยใช้กระป๋องใหญ่สามส่วนและกระป๋องเล็กหนึ่งส่วน..ผสมในภาชนะที่เตรียมไว้ คนด้วยเศษไม้..การคนอย่าคนนานจนเกิดเป็นฟอง..คนเพียงเพื่อให้เข้ากันเป็น พอ....เสร็จแล้วนำมาเทใส่กาพ่น......สำหรับกาพ่น..สมควรซื้อกาเล็กหรือที่ เรียกกันว่ากาแอร์บัต...เพราะสามารถสอดเข้าไปพ่นด้านในกรงได้สะดวกกว่ากา ใหญ่ ๆ ที่เราเห็นเขาใช้กันโดยทั่วไป....ผมจะพ่นกรงโดยรวมทั้งหมด..สี่ครั้ง...คือ ครั้งแรกพ่นกรงเสร็จแล้วก็จะปล่อยให้แห้งโดยธรรมชาติคือไม่นำไปตากแดดปล่อย ให้แห้งเองอาจใช้เวลานิดหนึ่ง..เมื่อกรงแห้งดีแล้วก็จะนำกรงมาขัดด้วยกระดาษ ทรายละเอียดให้เรียบทุกด้าน..หลังจากนั้นก็เช็ดปัดฝุ่นด้วยผ้าแล้วทำการพ่น ครั้งที่สอง...และก็จะใช้กรรมวิธีเหมือนกับตอนแรกทุกอย่าง...หลังจากนั้นก็ เริ่มพ่นครั้งที่สามพ่นครั้งนี้ให้พ่นบาง ๆ ให้เรียบและเสมอกันแล้วปล่อยให้แห้งโดยไม่ต้องขัดกระดาษราย...แล้วจึงมาพ่น ครั้งที่สี่หรือครั้งสุดท้ายอีกทีหนึ่ง...สีที่ออกมาจะแววและเงามันดี มากอนึ่ง...การพ่นสีให้พ่นหรือทำสีตอนที่อากาศดี ๆ มีแดด....อย่าทำตอนกลางคืนหรืออากาศชื้นเย็นเพราะจะทำให้สีที่พ่นหม่นหรือ ขึ้นขาวได้....และทุกครั้งที่พ่นเสร็จอย่านำไปตากแดดเพราะแดดจะทำให้สีที่ เคลือบแตกเป็นลายจะลำบากในการพ่นครั้งต่อ ๆ ไปได้....

ข้อคิดและข้อควรระวัง....จากประสพการณ์ของตัวเองที่เกิดขึ้น.

การพ่นสี...สีที่พ่นมักจะฟุ้งกระจายไปโดยรอบหรือทั่ว ๆ ไป ให้ควรระวังโดยการหาผ้ามาปิดปากเพื่อป้องกัน

อันตรายจากการสูดกลิ่นของทินเนอร์เข้าไป ถ้าพ่นหรือทำสีในบริเวณบ้านก็ต้องดูแลเรื่องนกที่เราเลี้ยงดูอยู่..

ให้เก็บหรือย้ายให้พ้นจากกลิ่นหรือกลุ่มควันของสีที่พ่น...เพราะนกของเราอาจจะแพ้กลิ่นหรือสารพิษเหล่านี้

แล้วล้มหายตายจากได้.....ซึ่งก็เป็นประสพการณ์ของผมโดยตรงคือพ่นสีกรงแต่ไม่ได้ระวัง...นกกระรางสองตัว

ซึ่งอยู่ในกรงใหญ่ข้างบ้านได้รับสารพิษเหล่านี้เข้าก็ล้มตายลง...ให้เป็นข้อเตือนใจกันครับ.....อีกอย่างหนึ่งเป็น

เรื่องสำคัญมาก ๆ กับบ้านข้าง ๆ หรือที่เราเรียกว่าบ้านใกล้เรือนเคียงกันนะแหละครับ....เพราะการพ่นสีด้วย ปั๊มลมเสียงของปั๊มลมมักจะดังเมื่อแรงลมอ่อนปั๊มก็จะทำงานอาจเป็นการรบกวน บ้านข้าง ๆ ยามพักผ่อน...สิ่งนี้ก็สมควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกันหาเวลาให้เหมาะกับเหตุการณ์ เป็นสิ่งที่ดีเพราะเมื่อพ่นเสียงดังยังมีกลิ่นเหม็นและกลุ่มควันฟุ้งกระจาย ไปโดยรอบอย่างที่บอกแต่แรกครับ.....อืม..เกือบลืมไปอีกอย่างหนึ่งที่สมควรทำ ทุกครั้งหลังจากพ่นสีกรงแล้วก็คือ..การล้างกาพ่น..ให้ล้างกาพ่นสีทุกครั้ง หลังจากเสร็จจากการพ่นสีกรงโดยการเททินเนอร์ใส่ลงในกากพ่นแล้วก็พ่น ทิ้ง.....ทำซักสองครั้งและควรถอดหัวกาพ่นแยกเก็บจากสายลมเป่าทุกครั้งเพราะ ส่วนผสมของสีอาจหลงเหลือและติดอยู่ภายในของท่อสายลมตรงกาจะทำให้เป็นเม็ด หรืออุดตันได้ง่าย...ย้ำ..การพ่นทุกครั้งแรงลมที่พ่นจะต้องเต็มอยู่ เสมอ..อย่าพ่นกรงขณะที่ปั๊มลมทำงานเติมลมหรือแรงลมต่ำ..เพราะจะทำให้สีที่ พ่นออกมาเป็นฟองหรือกระจายไม่เท่ากันทำให้เป็นเม็ดตามมาได้.....

การทำสีกรงอีกวิธีหนึ่ง....ที่นิยมทำกันอยู่ในตอนนี้ก็คือ

การนำกรงที่ทำเสร็จแล้วใหม่ ๆ เอี่ยมอ่องของเรา...นำไปที่อู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์หรือร้านพ่นสีรถยนต์ที่มี อยู่ทั่วไปแล้วก็จัดการว่าจ้างช่างให้พ่นกรงให้...อัตราค่าจ้างก็แล้วแต่ละ ร้านจะคิดราคาเอา...แต่ขอเตือนไว้อยู่อย่างหนึ่งครับว่า..การพากรงไปให้ร้าน เหล่านี้พ่นมักจะพ่นออกมาไม่ค่อยดี..สีจะย้อยบ้างไหลบ้างเพราะช่างทำสีมักจะ ไม่ค่อยขัดให้กับเรา..เราต้องไปนั่งเฝ้าและบอกกับช่างหรือคอยกำกับด้วย.. หรือบางทีช่างอาจจะหงุดหงิดเอาก็เป็นได้ถ้าเราไปจุกจิกจู้จี้กับช่าง....ถ้า เป็นไปได้..ให้ไปหาช่างหรือมีเพื่อนเป็นช่างทำด้านสีอยู่ก็จะเป็นการดีมาก ถ้าสนิทกับช่างหรือรู้จักกับช่างก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกันครับคือเราไป ซื้อสีมาแล้วก็ไหว้วานให้ช่างพ่นให้ขาพ่นให้แล้วเราก็เอามาขัดเองแล้วก็จ่าย ค่าแรงให้กับช่างก็เป็นวิธีที่ดีทีเดียวเช่นกันครับ.......

***************************************

2 ความคิดเห็น:

ถ้าพ่นกับแลคเก้อร์แบบกระป๋อง จะมีวิธีการเดียวกันหรือไม่ คับ

ไม่เหมือนคัพ
ผมต้องทารองพื้นก่อน(สแล็คขาวเบอร์๕)แล้วค่อยทาแล็คเกอร์เสร็จแล้ว
ผมจะเก็บระเอียดอีกโดยการพ่นแล็คเกอร์กระปํอง๓-๔รอบ..จบ

แสดงความคิดเห็น